เรียนรู้เกี่ยวกับเชื้อโรคในที่ทำงาน
ลดการปนเปื้อนข้าม (cross contamination) มีประโยชน์ในการลดการสูญเสียประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หากพนักงานลาป่วยบ่อย
รับบริการสำรวจวันนี้ คลิกเลย >>
สาขาบริการ
บริการของเรา
บริการของเรา
ผลิตภัณฑ์สำหรับบริการ
ระบบกระจายกลิ่นหอม
รุ่นผลิตภัณฑ์
ธุรกิจของคุณ
บริการสำหรับธุรกิจคุณ
บริการที่คุณกำลังมองหา
ทำไมต้อง อินนิเชียล?
วันล้างมือโลก
สำรวจพื้นที่ฟรีที่เบอร์ 02 290 8500 หรือ ติดต่อเรา
หากคุณเป็นหวัด อาจจะเกิดจากการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ หรือสัมผัสพื้นผิวที่ปนเปื้อนไวรัสที่สามารถแพร่เชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อโรคที่สามารถอยู่รอดบนพื้นผิวเป็นเวลาหลายวัน ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงเพราะไม่เพียงแต่คุณต้องใช้มือเพื่อหยิบ จับ ถือ พกพาสิ่งของต่างๆ หรือบางครั้งเผลอเกาหรือสัมผัสใบหน้า ปาก ตา จมูก ทำให้แต่ละส่วนของร่างกายได้สัมผัสกับเชื้อโรคและสารต่างๆ ในสภาพแวดล้อมที่คุณอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ออฟฟิสที่ทำงานหรือบริการขนส่งสาธารณะ หากคุณสัมผัสพื้นผิวที่มีเชื้อโรคปะปนอยู่ แล้วเผลอเอามือมาแตะตา จมูก หรือปาก เพียงเท่านี้ก็สามารถส่งผ่านเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ที่เป็นสาเหตุทำให้คุณไม่สบายได้
เราสามารถลดโอกาสในการเจ็บป่วยที่มีสาเหตุมาจากมือที่ไปสัมผัสเชื้อโรคด้วยการล้างมือให้สะอาด โดยใช้น้ำและสบู่ ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการลดการแพร่เชื้อและป้องกันการแพร่กระจายของโรค มีการศึกษาพบว่าการล้างมือด้วยสบู่เป็นประจำนั้นสามารถลดโอกาสการติดเชื้อ COVID-19 ได้ถึง 36%
แม้ว่าจะมีการศึกษาและงานวิจัยต่างๆ ที่บ่งชี้เรื่องประโยชน์ของการล้างมือมากมาย แต่มีผู้คนเพียง 62% เท่านั้น ที่ล้างมือหลังจากใช้ห้องน้ำสาธารณะ1 ซึ่งผลกระทบจากการขาดสุขอนามัยเช่นนี้จะแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ทั่วโลก แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดนั่นคือ เราทุกคนมีหน้าที่ที่ต้องจัดการมากขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักรู้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมอินนิเชียลถึงภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างเสริมสุขอนามัยที่ดีของผู้คนเนื่องจากในวันล้างมือโลก 2565 – การทำงานเพื่อปรับปรุงการล้างมือทั่วโลก
วันล้างมือโลก เกิดขึ้นเพื่อรณรงค์เน้นย้ำถึงความสำคัญของการล้างมือด้วยสบู่เพื่อสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองผู้คนทั่วโลก โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเผยแพร่เกี่ยวกับสุขอนามัยมือที่ดีสู่สังคม ผู้สนับสนุน และผู้นำชุมชน เพื่อสร้างจิตสำนึกและส่งเสริมสุขลักษณะนิสัย พร้อมจัดหาอำนวยความสะดวกด้านสุขอนามัย เพื่อสุขภาพที่ดีให้เกิดขึ้นทั่วโลก
วันล้างมือโลกครั้งแรก เริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2551 เข้าถึงเด็ก 120 ล้านคนจาก 73 ประเทศในห้าทวีป นับตั้งแต่การเปิดตัวที่ประสบความสำเร็จนั้น ก็ได้มีการเฉลิมฉลองเพื่อสร้างความตระหนักรู้เรื่อยมา และในปีที่ผ่านมา ผู้คนกว่าสองพันล้านคนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมอีเว้นท์ที่จัดขึ้น รวมถึงกิจกรรมเสมือนจริงบนออนไลน์ และแคมเปญกับสื่อมวลชนต่างๆ
วันล้างมือโลกในปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา มีตัวอย่างเรื่องราวความสำเร็จมากมาย เช่น Lifebuoy และ Sesame Street ได้ร่วมมือกันสร้างห้องเรียนเสมือนจริงที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีการสอนความสำคัญของการล้างมือให้กับเด็กๆ มีการจุดไฟเฉลิมฉลองวันล้างมือโลกบนกำแพงเมืองจีนจากความร่วมมือของ Procter & Gamble และ CCTV.com นอกจากนี้ยังมีคำมั่นสัญญาด้านสุขอนามัยมือที่เกิดขึ้นใหม่ จัดขึ้นโดยรัฐมนตรีของแต่ละประเทศ ผู้บริหารภาคเอกชน และผู้นำชุมชนอีก 50 แห่ง การดำเนินชีวิตในโลกยุคปัจจุบันที่คาดว่าจะมีผู้คนกว่า 1.9 พันล้านคนในปี 2030 จะยังคงขาดสิ่งอำนวยความสะดวกในการล้างมือที่บ้าน แม้เราจะผ่านพ้นจากสถานการแพร่ระบาดของโรค ก็ยังไม่มีความชัดเจนเท่าไรนักว่าที่ปฏิบัติกันอยู่ทุกวันนี้เพียงพอต่อสุขอนามัยที่ดีแล้วหรือยัง แต่เราก็ค้นพบว่าโลกให้ความสำคัญกับการแพร่กระจายของเชื้อโรคมากขึ้น และยังต้องเพิ่มแรงผลักดันเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ทุกคนมีสุขอนามัยที่เท่าเทียมกันผ่านวันล้างมือโลกนี้ วันล้างมือโลกและผู้สนับสนุนต้องการเพิ่มของการเปลี่ยนแปลง ปีนี้ขอให้ทุกคน รวมกันเป็นหนึ่งเพื่อสุขอนามัยของมือ #UniteforUniversalHandHygiene
แม้ว่าผู้คนจะได้รับข้อมูลข่าวสารมากขึ้นถึงความเสี่ยงที่เกิดจากสุขอนามัยของมือที่ไม่ดี แต่ก็ยังพบความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขอนามัยของมืออยู่ทั่วทุกมุมโลก หากยังมีผู้คนอีก 2.3 พันล้านคนไม่สามารถล้างมือด้วยสบู่และน้ำที่บ้านได้แล้ว เราจะปกป้องสุขภาพของประชาชนได้อย่างไร?
ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2564 กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) และองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ร่วมมือกันเผยแพร่รายงาน State of the World's Hand Hygiene โดยเนื้อหาในรายงานนี้ พวกเขาประเมินความก้าวหน้าของโลกหัวข้อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 6 (SDG 6) – การเรียกร้องให้ชุมชนทั่วโลกเข้าถึงสุขอนามัยสำหรับทุกคนภายในปี 2030 – และเสนอแนวทางในการบรรลุเป้าหมาย การวิจัยของพวกเขายังเผยให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมกันทั่วโลกเกี่ยวกับสุขอนามัยของมือ การค้นพบประเด็นที่สำคัญบางประการต่อไปนี้
เพื่อให้ความชัดเจนมากขึ้น ดังนั้นในวันล้างมือโลกปี 2565นี้ จึงเน้นที่ความรับผิดชอบร่วมกันของโลกเพื่อปรับปรุงการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขอนามัยของมือ
วันล้างมือโลกกำลังสนับสนุนให้ชุมชนและองค์กรต่างๆ เป็นกระบอกเสียงไปยังรัฐบาลและผู้มีอำนาจตัดสินใจ ในการจัดหาเงินทุนและทรัพยากรที่มากขึ้นในการจัดการด้านสุขอนามัยมือเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย SDG 6 พวกเขาเชื่อว่ารัฐบาล ผู้บริจาค นักวิจัย และภาคธุรกิจจำเป็นต้องทำงานร่วมกัน วันล้างมือโลกยังเรียกร้องให้มีการดำเนินการจากแต่ละประเทศ โดยแนะนำว่าพวกเขาควรกำหนด 'เป้าหมายความครอบคลุมระดับชาติ' ให้สอดคล้องกับ SDG 6 และสร้างแผนงานด้านสุขอนามัยที่มีวิสัยทัศน์ชัดเจนว่าพวกเขาจะบรรลุสุขอนามัยมือได้อย่างไร
ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 การดูแลรักษาสุขอนามัยมือได้รับความสนใจจากผู้คนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และการล้างมือกลายเป็นวิธีการสำคัญที่คุ้มค่าที่สุดวิธีหนึ่งในการรักษาความปลอดภัยด้านสุขภาพแก่ตนเองและผู้อื่น ทำให้ความเชื่อเกี่ยวกับการล้างมือเปลี่ยนไป ผู้คนไม่ได้ล้างมือแค่เพื่อทำความสะอาด ขจัดสิ่งสกปรกออกจากมือเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องกระทำเพื่อลดการแพร่เชื้อโรคระหว่างกัน
อินนิเชียล ได้ทำการสำรวจการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมทางสังคมที่มีต่อสุขอนามัยทั่วโลก มีผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 20,000 คนจาก 20 ประเทศ เกี่ยวกับผลกระทบของทัศนคติและการปฏิบัติด้านสุขอนามัยที่มีต่อความเป็นอยู่ที่ดี ความคาดหวังของพนักงานและขององค์กร และความรับผิดชอบด้านสุขอนามัย
รายงาน Global Hygiene Reset เปิดเผยว่าไม่เพียงแต่ทัศนคติที่เปลี่ยนไปของผู้คนเท่านั้น แต่ยังมีความคาดหวังเกิดขึ้นอีกด้วย 74% ของผู้คนตอนนี้กังวลมาก* ว่าสุขอนามัยมือที่ไม่ดีของคนอื่นอาจทำให้สุขภาพตนตกอยู่ในความเสี่ยง โดยบอกว่าสุขอนามัยมือไม่ได้ถูกมองว่าเป็นทางเลือกส่วนบุคคลอีกต่อไป แต่ควรเป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบร่วมกันในการดูแลซึ่งกันและกันให้ปลอดภัย
นอกจากนี้ การตระหนักรู้และเข้าใจมากขึ้นของผู้คนเกี่ยวกับการแพร่กระจายเชื้อโรค ทำให้คน 71% กลัวการแพร่เชื้อผ่านพื้นผิวสัมผัสในที่สาธารณะมากขึ้น* ดังนั้น ผู้คนจึงปรับพฤติกรรมตนเองใหม่ลดความเสี่ยงในการส่งต่อเชื้อโรคเพื่อปกป้องตนเองและผู้อื่น ซึ่งก่อให้เกิดเป็นสุขลักษณะนิสัยที่ติดตัวไปในระยะยาว โดย 66% ของผู้คนบอกว่าพวกเขาล้างมือมากขึ้น* และเพื่อป้องกันตนเองจากเชื้อโรคและไวรัส พวกเขาตั้งใจที่จะรักษาสิ่งนี้ให้คงอยู่ต่อไป
การล้างมือเป็นพฤติกรรมจำเป็นที่ต้องทำให้ติดเป็นนิสัย ไม่ว่าจะไปในสถานที่ที่มีอุปกรณืล้างมือหรือไม่ก็ตาม 58% ของผู้ตอบแบบสอบถามจะใช้เจลทำความสะอาดมือเพื่อป้องกันไวรัสทั่วไป พบว่าในที่ทำงาน สัดส่วนของคนที่ใช้เจลทำความสะอาดมือเพิ่มขึ้นเป็น 61% ของคนที่ทำงานในพื้นที่ที่ต้องใช้พื้นที่ร่วมกัน โดยในรายงานระบุว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะล้างมือเป็นประจำในที่ทำงานเพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขอนามัย
เห็นได้ชัดว่าผู้คนตระหนักถึงความเสี่ยงของการมีสุขอนามัยมือที่ไม่ดีและต้องการมาตรการเพื่อปกป้องตนเองและคนรอบข้าง หากธุรกิจต้องการช่วยให้พนักงานและลูกค้ารู้สึกปลอดภัย ได้รับการปกป้องด้านสุขอนามัยที่ดี จำเป็นต้องจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมเพื่อส่งเสริมแนวทางการล้างมือ และเสริมสร้างวัฒนธรรมสุขอนามัยมือที่ดีแก่สังคมต่อไป
*ก่อนช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19
รู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวันล้างมือโลก ที่นี่
1 Initial, The Global Hygiene Reset, 2021
โทรหาเรา
คลิกกรอกแบบฟอร์ม